วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การทำวุ้นผลไม้



วุ้นผลไม้เป็นเมนูสุขภาพที่ทำให้ผู้กินชื่นใจชื่นกายได้เพราะผลไม้มีวิตามินที่ทำให้ร่างกายสดชื่น โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มโรคหวัดได้ นอกจากนี้ผลไม้สดๆ ยังมีกากใยอาหารช่วยในการระบายรวมไปถึงสีสันของผลไม้แต่ละชนิดไม่ว่าจะเป็นสีเขียว,สีแดง,สีเหลืองจากสารพฤษเคมีตามธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นสารแอนติออกชิแดนต์พลังสูงช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้ด้วย
ผลไม้ หมายถึง ผลที่เกิดจากการขยายพันธุ์โดยอาศัยเพศของพืชบางชนิด ซึ่งมนุษย์สามารถรับประทานได้ และส่วนมากจะไม่ทำเป็นอาหารคาว ตัวอย่างผลไม้ เช่น ส้มแอปเปิ้ล กล้วย มะม่วง ทุเรียน รวมถึง มะเขือเทศ ที่สามารถจัดได้ว่าเป็นทั้งผักและผลไม้

แตงโม







ประโยชน์ของแตงโม ผลไม้เพื่อสุขภาพ (Woman Plus)
 สำหรับสาวคนใดที่ชื่นชอบการรับประทานผลไม้เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ในประเทศหรือต่างประเทศ แต่มีผลไม้ชนิดหนึ่งที่สาว ๆ ทั้งหลายไม่ควรพลาด นั่นก็คือแตงโม 
เนื่องจากในผลแตงโมมีสารสำคัญสีแดงที่มีชื่อว่า "ไลโคปีน" (Lycopene) ที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ อีกทั้งในเนื้อแตงโมยังมี "เบตาแคโรทีน" (Beta-Carotene) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายนำมาใช้เพื่อเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบขับปัสสาวะ รวมถึงยังช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรงอีกด้วย
นอกจากนี้เปลือกแตงโมยังมีสาร "ซิทรูไลน์" (Citruline) ที่มีส่วนช่วยขยายเส้นเลือดซึ่งเป็นผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน และสารนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อคนที่เป็นโรคอ้วนและเบาหวานด้วย 

          สำหรับผู้หญิงคนใดที่ต้องการลดความอ้วน แตงโมอาจกลายเป็นตัวเลือกสำคัญของคุณได้ เนื่องจากแตงโมมีแคลอรี่ต่ำ และยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีที่ช่วยป้องกันไข้หวัดและโรคเลือดออกตามไรฟัน หรือจะเป็นโพแทสเซียมที่มีส่วนช่วยควบคุมความดันโลหิตของร่างกาย

          ใครที่เคยเมินเชิดใส่แตงโม ควรรีบเปลี่ยนทัศนคติแล้วหันกลับมาให้ความสนใจในคุณประโยชน์และรสชาติหวานอร่อยของแตงโมอย่างเต็มที่
ส้ม
 



ประโยชน์ของส้ม
ส้มเป็นผลไม้ตระกูล Citrus ที่ให้ทั้งรสเปรี้ยวและหวาน จึงอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย ที่เด่นที่สุดคือ ให้วิตามินซีสูง นอกจากนี้ ยังมีแคลเซียม วิตามินเอ บี โปแตสเซียม แคลเซียม ใยอาหาร ฟอสฟอรัส เหล็ก ซึ่งส้มแต่ละชนิดจะให้คุณค่าทางสารอาหารไม่ต่างกันมากนัก ส่วนคุณประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น
 ดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ลดความเครียด ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกายในส้มมีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันการอักเสบ และเลือดจับตัวเป็นก้อนมีคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก และยังช่วยสมานแผลหลังผ่าตัด แผลไฟไหม้ ให้หายเร็วและแผลเรียบเนียนขึ้น

ส้มในบ้านเรามีหลายชนิด ทั้งส้มให้ความเปรี้ยวและส้มให้ความหวาน แต่ละชนิดก็มีลักษณะเด่นและการนำไปใช้แตกต่างกันไป อาทิเช่น

          
 ส้มซันคิสต์ มีรสชาติอร่อยเข้มข้น เปลือกมีกลิ่นหอม จึงนิยมนำทั้งน้ำและเปลือกมาทำขนม ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ เค้ก หรือแยม

          
 ส้มเขียวหวาน มีเนื้อหวานฉ่ำ เหมาะสำหรับกินสดๆ หรือคั้นดื่ม เพราะเปลือกบางทำให้คั้นได้ง่าย

          
 ส้มจุก มีรสชาติและสีใกล้เคียงกับส้มเช้ง คือ หวานอ่อนๆ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือคนที่ต้องการลดน้ำหนักค่ะ

          
 ส้มโอ เป็นส้มที่สามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งคาว เช่น ยำส้มโอ ใส่ในข้าวยำน้ำบูดู ใส่ในสลัด หรือทำอาหารหวาน เช่น ส้มโอลอยแก้ว ส่วนเปลือกของส้มโอที่มีสีขาวนุ่ม รสชาติขมๆ อยู่ติดกับเปลือก ยังสามารถนำมาเชื่อมได้อีกค่ะ

          
 ส้มจี๊ด คนไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมกินเพราะเปรี้ยวมาก แต่คนจีนนิยมกินโดยเฉพาะนำมาคั้นทำน้ำส้ม หรือนำมาอบแห้งค่ะ

          
 ส้มจีน เป็นส้มที่กินสด หรือนิยมนำมาไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษ เพราะคำว่าส้มในภาษาจีนจะฟังเหมือนคำว่าทอง และสีก็เหมือนทองด้วย จึงถือเป็นผลไม้มงคลสำหรับชาวจีนค่ะ
การเลือกซื้อส้ม
การเลือกซื้อส้มที่มีรสหวาน รสชาติอร่อยนั้น ควรเลือกที่มีผิวเรียบเนียน เปลือกบาง เช่นเดียวกับมะนาวที่ผิวเรียบเนียน เปลือกบางก็จะให้น้ำเยอะ ถ้าเป็นส้มเขียวหวานก็จะหวานมาก

กล้วย
 










กล้วยเป็นไม้ผลที่คนโบราณนิยมปลูกใกล้บ้านไว้เป็นอาหารเพื่อไม่ต้องเข้าป่าไปหาประโยชน์ของกล้วยมีมากมาย คนโบราณรู้จักประโยชน์จากกล้วยมานานแล้ว  เกือบทุกส่วนของกล้วยสามารถนำมาดัดแปลงใช้ให้มีคุณค่าได้
กล้วยจึงนับได้ว่าเป็นพืชสารพัดประโยชน์และเป็นอาหารที่มีคุณค่ามาก ชาวอินเดียถือว่ากล้วยเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อกระเพาะลำไส้  โดยเฉพาะโรคกระเพาะ หมอสมุนไพรอินเดียยืนยันมานานแล้วว่าใช้กล้วยแก้โรคนี้ได้ดี นักวิทยาศาสตร์ก็พยายามทดลองพิสูจน์หาความจริง  มีการทดลองจนแน่ใจและสามารถที่จะเผยแพร่ได้แต่อาจจะมีน้อยคนที่จะรู้ว่ากล้วยเป็นยารักษาโรคได้หลายชนิด
สรรพคุณของกล้วยกับการรักษาโรคต่าง ๆ
โรคกระเพาะ
เอากล้วยหักมุกดิบมาหั่นตากแดดบดผงกินวันละ 4 ครั้ง ๆ ละ 1-2 ช้อนแกง  โดยใช้ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำหวาน พอให้เหนียว ๆ กินก่อนอาหารครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงและก่อนนอน
ความดันโลหิตสูง
ตำราอินเดียกล่าวว่า  คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงควรกินกล้วยสุกเป็นประจำ เพราะกล้วยมีส่วนรักษาโรคนี้ได้ดี
เบาหวาน
ชาวอินเดียใช้ดอกกล้วยต้มเอาน้ำมากินแก้เบาหวาน  วิธีต้มใช้ดอกกล้วย 1 กำมือ ล้างน้ำให้สะอาด ต้มกับน้ำ 3 แก้ว ให้เดือดนาน 20 นาที กินครั้งละ 1 แก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
ผิวกล้วยแห้งและกล้วยสุกเป็นอาหารที่ช่วยบรรเทาโรคเบาหวานได้เช่นกัน
ปวดท้องเป็นประจำ
ให้เอาเปลือกกล้วยน้ำว้าสุก 3 กำมือ เกลือแกง 1 กำมือ นำยาทั้ง 2 อย่างใส่หม้อดินใส่น้ำพอท่วมต้มให้เดือดนานครึ่งชั่วโมง กินน้ำยาครั้งละ 1 ถ้วยชาจีนก่อนอาหารเช้า-เย็น  มีสรรพคุณแก้ริดสีดวงลำไส้ มีอาการปวดท้องเป็นประจำ
ปากขม
เมื่อคราวที่ไข้หวัดระบาด ดิฉันนอนซมเลยค่ะ ลางานตั้งอาทิตย์ทานอะไรไม่ได้เลย น้ำหนักลดตั้ง 5 กก.  ดิฉันได้กล้วยน้ำว้าของเรานี่แหละค่ะถึงรอดตาย  เวลาเป็นไข้กินอะไรมันขมแม้แต่น้ำ  แต่กินกล้วยน้ำว้าจะไม่ขมเลย  ซ้ำพลังงานทำให้มีแรงอีกด้วย แปลกนะคะ
ปากเหม็น
ใครที่รู้ตัวว่ามีกลิ่นปากเหม็น  มีวิธีแก้ที่ลงทุนไม่มากนักเพราะผู้เขียนก็ปากเหม็น แต่บัดนี้หายแล้ว วิธีแก้คือรับประทานกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ หรือกล้วยอะไรก็ได้ที่ยังไม่ได้ ต้ม ทอด เชื่อม ปิ้ง รับประทานในตอนเช้าหลังจากตื่นนอนแล้ว สัก 6-7 ลูก จึงค่อยแปรงฟัน ทำอย่างนี้สัก 1 อาทิตย์
ร้อนใน
ตามสรรพคุณยาไทยกล่าวว่ารากของกล้วยดิบมีรสเย็นใช้แก้ร้อนในได้ดี  วิธีใช้เอารากกล้วยดิบมาหั่นเป็นชิ้นใส่น้ำลงไป 2 เท่า ต้มให้เดือดนาน 15 นาที กินครั้งละ ½ -1 แก้ว  วันละ 3-4 ครั้ง

โรคพยาธิ
อินเดียใช้ขี้เถ้าจากต้นและใบกล้วยกินเป็นยาขับพยาธิ บอกว่าใช้ได้ผล กินครั้งละ ½ -1 ช้อนชา ก่อนอาหารเช้า-เย็น
โรคริดสีดวงทวาร
คนที่เป็นริดสีดวงทวารไม่ว่าจะเป็นเริ่มแรกจนกระทั่งถ่ายเป็นเลือด  ควรกินกล้วยเป็นประจำ เพราะกล้วยจะทำให้อุจจาระอ่อนตัว  เวลาถ่ายอุจจาระจะได้ไม่ครูดกับหัวริดสีดวงทวาร
โรคหัวใจ
จีนใช้ดอกกล้วยแห้งบดผงผสมน้ำ เติมเกลือเล็กน้อย กินรักษาโรคหัวใจ กินครั้งละ 1-2 ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
หอบหืด
ใช้ผิวไผ่ 1 กำมือ ห่อด้วยใบตองกล้วยตานีล้างให้สะอาด ใส่น้ำท่วม ต้มยากินวันละ 2-3 ครั้ง  ครั้งละ ½-1 แก้ว
หูเป็นฝี
เชื่อหรือไม่หนูมีวิธีแก้ฝีในหู เพราะหนูเคยเป็นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว  รับรองหายเด็ดขาด เอาทางกล้วยน้ำว้ามาลนไฟแล้วบิดเอาน้ำใส่ในรูหู นอนเอียบหูไว้สัก 5 นาที เทออกมาก็จะหายปวด ทำวันละ 2-3 ครั้ง


แอปเปิ้ลสีชมพู
 

คุณค่าทางสารอาหารที่สำคัญคือ มีสารฟิโนลิกมากที่สุด ซึ่งสารตัวนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

แอปเปิ้ลสีเขียว


มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะมีน้ำตาลน้อย และมีสารอิลาสตินและคอลลาเจนเช่นเดียวกัน ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี

แอปเปิ้ลสีเหลือง



มีสารเควอร์ซิติน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก
ต่อจากนี้ไปก่อนซื้อแอปเปิ้ลคงต้องพิจารณาก่อนว่าช่วงนั้นร่างกายต้องการอะไร อยากผิวสวยต้องแอปเปิ้ลแดงกับเขียว อยากฟันแข็งแรงต้องแอปเปิ้ลชมพู แต่ถ้าอยากลดหุ่นสีไหนก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น

องุ่น
 






  องุ่น เป็นอาหารบำรุงร่างกายอีกชนิดหนึ่ง นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหาร ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีหลายชนิด สารอาหารที่สำคัญ คือน้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์อีกประมาณ 7-8 ชนิด น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี นอกจากนี้ยังมีเหล็ก และแคล   เซี่ยมองุ่นยังสามารถนำไปทำเหล้าองุ่น ซึ่งเป็นเหล้าบำรุง ส่วนเครือและราก ใช้เป็นยาขับลม ขับปัสสาวะ รักษาโรคไขข้ออักเสบ ปวดเอ็นกระดูก และมีฤทธิ์ระงับประสาท แก้ปวด แก้อาเจียนอีกด้วย
    การรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้ง แรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายค่อยๆแข็งแรงขึ้นได้






วุ้นผลไม้

วิธีการทำวุ้นผลไม้
วุ้นผลไม้เป็นเมนูสุขภาพที่ทำให้ผู้กินชื่นใจชื่นกายได้เพราะผลไม้มีวิตามินที่ทำให้ร่างกายสดชื่น โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มโรคหวัดได้ นอกจากนี้ผลไม้สดๆ ยังมีกากใยอาหารช่วยในการระบายรวมไปถึงสีสันของผลไม้แต่ละชนิดไม่ว่าจะเป็นสีเขียว,สีแดง,สีเหลืองจากสารพฤษเคมีตามธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นสารแอนติออกชิแดนต์พลังสูงช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้ด้วย
ส่วนผสมการทำตัววุ้น

·                     น้ำเต้าหู้  1 ถ้วย
·                     ผงวุ้น 11/2 ช้อนชา
·                     น้ำตาลทรายแดง  1 ช้อนโต๊ะ
·                     น้ำผลไม้


วิธีทำ
·                     หั่นผลไม้แต่ละชนิดให้มีขนาดและรูปร่างตามชอบ
·                     ทำตัววุ้นโดยผสมน้ำเต้าหู้คนให้เข้ากันจนผงวุ้นละลายนำขึ้นตั้งไฟแล้วใส่น้ำตาลทรายแดงคนให้ละลายพอส่วนผสมเริ่มเดือดให้ยกลง
·                     เทส่วนผสมลงในถ้วยหรือแม่พิมพ์ประมาณ ¾ ของถ้วย พักไว้รอให้วุ้นเริ่มแข็งตัวเล็กน้อย วางผลไม้ลงบนวุ้นตามชอบ
·                     ระหว่างรอให้วุ้นแข็งตัวให้ทำหน้าวุ้น โดยผสมผงวุ้นกับน้ำผลไม้คนให้เข้ากันจนผงวุ้นละลาย แล้วนำไปตั้งไฟพอส่วนผสมเริ่มเดือดให้ยกลง
·                     เทส่วนผสมหน้าวุ้นลงบนตัววุ้นที่แต่งหน้าด้วยผลไม้ไว้แล้ว ทิ้งไว้สักครู่แล้วจึงนำไปแช่เย็น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น